เรื่องราวของมหาภารตะมีหลายเหตุผลที่ทำให้เกิดสงครามครั้งใหญ่ แต่หนึ่งในเหตุผลสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งก็คือ การดูหมิ่นและหยามเกียรติ ซึ่งเกิดขึ้นในหลายช่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุการณ์สำคัญสองครั้ง:
การดูหมิ่นในพิธีราชสูยะ
เมื่อปาณฑพได้เป็นใหญ่และจัดพิธีราชสูยะ ท้าวทุรโยธน์และเหล่าน้องชายได้เดินทางมาเข้าร่วมพิธีด้วย ในขณะนั้น พวกปาณฑพได้สร้างปราสาทที่สวยงามและวิจิตรอลังการ ทว่าในปราสาทนั้นมีห้องที่สร้างขึ้นด้วยภาพลวงตา ทำให้ท้าวทุรโยธน์เข้าใจผิดหลายครั้ง เช่น เดินไปชนกำแพงแก้วที่คิดว่าเป็นช่องทางเดิน หรือก้าวลงไปในบ่อที่คิดว่าเป็นพื้น เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ นางเทราปที ชายาของเหล่าปาณฑพก็ได้หัวเราะออกมาพร้อมกับกล่าวว่า "บุตรคนตาบอด ย่อมได้คู่ครองคนตาบอด" คำพูดนี้สร้างความอับอายและฝังใจท้าวทุรโยธน์เป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความแค้นที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน
การดูหมิ่นในพิธีเล่นสกา
หลังจากนั้น ท้าวทุรโยธน์ได้วางแผนกับท้าวศกุนิเพื่อจะแก้แค้นด้วยการท้าปาณฑพเล่นสกา ในระหว่างการเล่นนั้น ท้าวทุรโยธน์ได้โกงจนเหล่าปาณฑพต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงนางเทราปทีที่เป็นของเดิมพันสุดท้าย เมื่อนางเทราปทีถูกนำตัวเข้ามาในท้องพระโรง ท้าวทุรโยธน์ได้สั่งให้ ทุหศาสนะ น้องชายของตนฉีกเสื้อผ้าของนางเพื่อประจาน นางเทราปทีได้ร้องขอความช่วยเหลือจากพระกฤษณะ ซึ่งพระองค์ได้ทรงบันดาลให้ส่าหรีของนางทอออกมาไม่รู้จบจนทุหศาสนะหมดแรงไปเอง
เหตุการณ์นี้ถือเป็นการหยามเกียรติอย่างร้ายแรงที่สุด ไม่เพียงแค่ต่อตัวนางเทราปทีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงศักดิ์ศรีของเหล่าปาณฑพทั้งห้า การกระทำนี้ทำให้เหล่าปาณฑพสาบานว่าจะแก้แค้น และเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่นำไปสู่สงครามมหาภารตะในที่สุด
การดูหมิ่นและดูแคลนกันเหล่านี้จึงเป็นชนวนสำคัญที่จุดประกายความขัดแย้งที่ยิ่งใหญ่และนำไปสู่การทำลายล้างที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น